10 เค้กช็อกโกแลตห้ามพลาด!!


 10 เค้กช็อกโกแลตห้ามพลาด!!

                                              

1.Sachertorte (ซาเคอร์ทอร์ต)

https://shorturl.asia/kEuTw

เค้กขึ้นชื่อของกรุงเวียนนา คำว่า ทอร์ต หรือทอร์เท แปลว่า เค้ก ส่วนซาเช่ เป็นชื่อสกุลของพ่อครัวฝึกหัด ฟรานยซ์ ซาเช่ (Franz Sacher) ซึ่งเคยทำงานในวังของเจ้าชายเมตเตอร์นิช (Metternich) เค้กชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อ ฟรานยซ์ มีอายุเพียง 16 ปี วันที่หัวหน้าเชฟป่วย แต่เจ้าชายต้องการเค้กที่จะใช้รับรองแขก ทุกวันนี้ ตระกูลซาเช่ได้เปิดโรงแรม ซึ่งใช้ชื่อว่าโรงแรมซาเช่ (Hotel Sacher) และยังมีเค้กตัวนี้จำหน่ายอีกด้วย เอกลักษณ์สามประการของซาเช่ทอร์ต คือ ตัวเนื้อเค้กต้องไม่หวาน สอดไส้ด้วยแยมแอปริคอต และเคลือบด้วยหน้าช็อกโกแลต ซาเช่ทอร์ตนิยมเสิร์ฟกับวิปครีม


ส่วนประกอบ


  • เค้ก

  • เนย140 กรัม

  • แป้งเค้ก90 กรัม

  • ดาร์กช็อกโกแลต 70%170 กรัม

  • เกลือ¼ ช้อนชา

  • น้ำตาลไอซิ่ง75+12 กรัม

  • ไข่แดง6 ฟอง

  • ไข่ขาว4 ฟอง

  • กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา

  • ไส้แยม

  • แยมแอพริคอต150+150 กรัม

  • น้ำตาลทราย55 กรัม

  • น้ำสะอาด4 ช้อนโต๊ะ

  • เหล้าดาร์กรัม2 ช้อนโต๊ะ

  • หน้าช็อกโกแลต

  • น้ำผึ้ง70 กรัม

  • น้ำสะอาด2 ช้อนโต๊ะ

  • ดาร์กช็อกโกแลต 70%200 กรัม



2.Brownie cake (บราวนีเค้ก)



https://amprohealth.com/food-dessert/brownie/

บราวนีนั้นมีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ในช่วงยุคปลายศตวรรษที่ 19 โดยไม่แน่ชัดในเรื่องผู้ค้นคิดคนแรก แต่ก็มีเรื่องเล่าว่า ในปี คศ.1893 มีหญิงสาวสังคมผู้มั่งคั่ง นามว่า เบอร์ธา พ็อตเตอร์ พาล์มเมอร์ (Mrs. Bertha Potter Palmer) ต้องการ ขนมหวานที่มีขนาดเล็ก สามารถใส่ในกล่องอาหารกลางวัน และกินง่าย เพื่อนำไปกินในงาน Chicago World’s Columbian Exposition กับเพื่อน ๆ ของเธอ จึงสั่งให้พ่อครัวของโรงแรมเดอะ พาล์มเมอร์ เฮ้าส์ (The Palmer House Hotel) เป็นผู้จัดการ โดยพ่อครัวได้ทำเป็น ขนมอบรสช็อกโกแลตเนื้อแน่น โรยด้วยถั่ววอลนัทและเกล็ดน้ำตาลจากน้ำเชื่อมของแอพริคอต จนกลายเป็นเมนูขึ้นชื่อของโรงแรมเดอะ พาล์มเมอร์ เฮ้าส์ ถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมีตำนานต่าง ๆ เช่น พ่อครัวทำเค้กช็อกโกแลตแล้วใส่ส่วนผสมผิด ใส่แป้งน้อยเกินไป เมื่ออบออกมาจึงได้เนื้อเค้กช็อกโกแลต ที่เข้มข้นมีความหนึบ หรือ แม่ครัวในเมืองบังกอ (Bangor)ในรัฐเมน (Maine) นามว่ามิลเดร็ด บราวน์ ชรัมป์ (Mildred Brown Schrumpf) ซึ่งมีชื่อเล่นว่า บราวนี ได้ทำเค้กช็อกโกแลตและลืมใส่ส่วนประกอบสำคัญคือผงฟู ทำให้เค้กไม่ขึ้นฟู ด้วยความเสียดายจึงตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแล้วแจกจ่ายให้คนในครอบครัวรับประทาน  อ่านต่อได้ที่ 
https://www.wongnai.com/food-tips/content-of-brownie?ref=ct

ส่วนประกอบ


  • บราวนี

  • เนยสดจืด60 กรัม

  • แป้งเค้ก35 กรัม

  • ดาร์กช็อกโกแลต 70%170 กรัม

  • เกลือ¼ ช้อนชา

  • น้ำตาลทราย75 กรัม

  • ไข่ไก่เบอร์ใหญ่1 ฟอง

  • เฮเซลนัตอบ10 กรัม

  • มะม่วงหิมพานต์อบ10 กรัม



3.Black Forest cake (เค้กแบล็คฟอเรสต์)

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/905479


ของหวานที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Black Forest ถือเป็นเค้กช็อกโกแลตจากเยอรมันที่มีที่มาไม่ชัดเจน บางคนบอกว่ามีมาตั้งศตวรรษที่ 16 ในขณะที่บางคนบอกว่ามันถูกคิดค้นโดยคนทำขนมชื่อว่า Josef Keller (1887–1981) แต่บ้านเกิดของมันคือประเทศเยอรมันแน่นอน คาดว่าชื่อของมันมาจากลักษณะของเค้กคล้ายกับเครื่องแต่งกายของผู้หญิงที่อยู่ใน Black forest ของเยอรมัน โดยพวกเธอจะใส่เสื้อผ้าสีขาวดำและหมวกสีแดง โทนเดียวกับเค้กที่มีสีดำของเนื้อเค้กช็อกโกแลตสีขาวของครีมสด และสีดำหรือแดงของผลเชอร์รี่ เค้กก้อนนี้ยังมีความหอมหวานอันเป็นเอกลัษณ์ที่เกิดจาก Kirschwasser หรือ บรั่นดีที่กลั่นมาจากเชอร์รี่หวาน ช่วยให้เค้กมีรสชาติพิเศษมากขึ้น

ส่วนประกอบ


  • เค้ก

  • ไข่ไก่6 ฟอง

  • น้ำตาลทราย180 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา1½ ช้อนชา

  • ผงโกโก้25 กรัม

  • แป้งเค้ก70 กรัม

  • เกลือ¼ ช้อนชา

  • อัลมอนด์ป่น45 กรัม

  • ช็อกโกแลต (ขูด)สำหรับแต่งหน้า

  • ครีม

  • น้ำตาลไอซิ่ง60 กรัม

  • แป้งข้าวโพด1 ช้อนโต๊ะ

  • ครีม185+565 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา

  • ไส้เชอร์รี่

  • เชอร์รีในน้ำเชื่อม220 กรัม

  • น้ำเชื่อมเชอร์รี่2 ช้อนโต๊ะ

  • เหล้าเชอร์รี่2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลทราย2 ช้อนโต๊ะ

  • กลิ่นอัลมอนด์½ ช้อนชา




4.Ding Dong cake (ดิงดอง)


https://shorturl.asia/0xYVi

เราอาจไม่คุ้นหูเค้กก้อนนี้กันเท่าไหร่ Ding Dong คือ เค้กช็อกโกแลตของ Hostess Brands ผู้ผลิตขนมชื่อดังจากอเมริกา มันจะเป็นเค้กช็อกโกแลตชิ้นเล็กสอดไส้ครีมที่ถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลคอีกชั้นหนึ่ง Ding Dong ถูกผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศอเมริกามาตั้งแต่ปี 1967 จนถึงปัจจุบัน พร้อมจุดเด่นเรื่องขนาดที่กระทัดพอ ๆ กับลูกพัคที่ใช้ในกีฬาฮอกกี้ (hockey puck) สามารถทานหมดได้ภายใน 2 – 3 คำ

ส่วนประกอบ


  • เค้กช็อกโกแลต

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์210 กรัม

  • ผงโกโก้90 กรัม

  • เบกกิงโซดา2 ช้อนชา

  • ผงฟู1 ช้อนชา

  • เกลือ1 ช้อนชา

  • น้ำตาลทราย400 กรัม

  • นมข้นจืด240 มิลลิลิตร

  • น้ำมะนาว1 ช้อนชา

  • น้ำมันรำข้าว110 กรัม

  • ไข่ไก่2 ฟอง

  • กลิ่นวานิลลา2 ช้อนชา

  • ผงกาแฟ2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำร้อน230 มิลลิลิตร

  • ไส้ครีม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์5 ช้อนโต๊ะ

  • นมข้นจืดตรานกเหยี่ยวฟอลคอน180 มิลลิลิตร

  • น้ำสะอาด50 มิลลิลิตร

  • กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา

  • ชอร์ตเทนนิงน้ำมันรำข้าว100 กรัม

  • เนย125 กรัม

  • น้ำตาลทราย200 กรัม

  • ช็อกโกแลตกานาช

  • วิปปิ้งครีม400 กรัม

  • ดาร์กช็อกโกแลต400 กรัม

  • นมข้นจืด2 ช้อนโต๊ะ



5.บานอฟฟี่ (Banoffee)



https://shorturl.asia/yo8Zr

Banoffee หรือ Banoffi มาจากคำว่า Banana ที่แปลว่า กล้วย และ Toffee ซึ่งก็คือ ทอฟฟี่หรือคาราเมลนั่นเอง บานอฟฟี่ พาย เป็นขนมหวานสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ที่ผสมผสานทั้ง 2 รสชาติเข้าด้วยกัน ได้แก่ กล้วย และ ทอฟฟี่ หรือ คาราเมล ซึ่งวางอยู่บนชั้นของแป้งพายกรุบกรอบแต่งหน้าด้วยครีมสด ให้รสสัมผัสที่หอมละมุนด้วยกลิ่นของกล้วยและคาราเมล ถ้าพร้อมแล้ว เรามาทำกันเลยดีกว่า

                        

วัตถุดิบบานอฟฟี่พาย
1. แคร็กเกอร์/โอรีโอ้            150  กรัม
2. เนยสดชนิดเค็ม                 70  กรัม
3. กล้วยหอม                          5  ลูก
4. วิปปิ้งครีม  Non-dairy  ชนิดจืด

ทอฟฟี่ซอส
1. นมข้นจืด                        150  กรัม
2. นมข้นหวาน                      70  กรัม
3. เนยสดชนิดเค็ม                 80  กรัม
4. เกลือ                              1/4  ช้อนชา



     6.Chocolate Lemon Curd Tart(ทาร์ตช็อกโกเเลตเลมอนเคิร์ด)


https://shorturl.asia/5H4Ja

ทาร์ตบิสกิตใส่ไส้เลมอนเคิร์ดที่มีส่วนผสมของผงโกโก้ รสชาติแตกต่างที่เข้ากันได้ดีเหลือเกิน เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานช็อกโกแลต แต่ห่วงใยเรื่องของน้ำหนัก และรักในความสดชื่นของมะนาวเลมอน


ส่วนประกอบ


  • ทาร์ต

  • ไดเจสทีฟบิสกิต180 กรัม

  • เนย60 กรัม

  • น้ำตาลทราย1 ช้อนชา

  • อบเชย (ป่น)¼ ช้อนชา

  • ช็อกโกแลตเลมอนเคิร์ด

  • ไข่ไก่3 ฟอง

  • ไข่แดง3 ฟอง

  • น้ำตาลทราย185 กรัม

  • ผิวมะนาวเลมอน2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมะนาวเลมอน180 มิลลิลิตร

  • เนย185 กรัม

  • กลิ่นมะนาว½ ช้อนชา

  • ผงโกโก้2 ช้อนโต๊ะ


7.German chocolate cake (เค้กช็อกโกแลตเยอรมัน) 

Credit : https://pin.it/2vz1LDV

แม้จะชื่อว่าเค้กเยอรมัน แต่จริง ๆ แล้วเค้กก้อนนี้เกิดขึ้นในอเมริกา โดยนักทำขนมชื่อว่า Samuel German โดยลักษณะเด่นของเค้กก้อนนี้ คือ เป็นเค้กช็อกโกแลตที่มีลักษณะเป็นชั้นและมาพร้อมกับไส้และท้อปปิ้งที่ทำจากไข่ขาวและนมเคลือบด้วยฟรอสซิ่งช็อกโกแลตที่ด้านข้าง และฟอร์สซิ่งมะพร้าวพีแคนที่ด้านบน ออกมาเป็นเค้กที่มีรสชาติหวานของช็อกโกแลต ถั่ว และมะพร้าว 


ส่วนผสม

  1. ผงโกโก้แบบเข้ม 70 กรัม
  2. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  3. กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำร้อน 125 กรัม
  5. นมสดจืด 250 กรัม
  6. แป้งเค้ก 350 กรัม
  7. เบ้คกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  8. เนยจืดอุณหภูมิห้อง 335 กรัม
  9. น้ำตาลทรายขาว 450 กรัม
  10. ไข่ไก่ 4 ฟอง



8.Molten chocolate cake (เค้กช็อกโกแลตโมเท้

Credit : https://pin.it/3hRUIrK

นับเป็นเค้กช็อกโกแลตยอดฮิตสำหรับ Molten chocolate cake หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อเค้กลาวา ว่ากันว่ามันถูกคิดค้นโดยเชฟชาวฝรั่งเศส Michel Bras ในปี 1981 แต่ก็มีคนอื่นที่เคลมว่าเป็นผู้คิดค้นของหวานชนิดนี้เหมือนกัน Molten chocolate cake จะเป็นการผสมเค้กช็อกโกแลตและซูเฟล่เข้าด้วยกัน เวลารับประทานเราจะรู้สึกฟินแบบ 2 ต่อ คือ ฟินกับความหวานนุ่มของเค้ก ก่อนจะไปฟินกับซอสลาวาที่ล้นออกมาสร้างความหวานให้ปาก


ส่วนผสม

  • ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
  • ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 1/3 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่เบอร์ 1 2 ฟอง
  • เนยสดเค็ม  65 กรัม
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  1/3 ถ้วย
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา

หน้าช็อกโกแลต

  • ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
  • ผงโกโก้ละลายกับช็อกโกแลต 2 ช้อนโต๊ะ
  • วิปปิงครีม 1/2 ถ้วย
  • ผงโกโก้โรยหน้าตามชอบ


9.Red velvet (เค้กเรดเวลเวท)

เวลาไปร้านขนมหวานเราจะเห็นเค้กก้อนนี้เสมอ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันคือเค้กช็อกโกแลต ชื่อของมัน คือ Red Velvet เค้กสีแดงที่กำเนิดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ Maryland โดยเค้กก้อนนี้จะประกอบไปด้วย นมเนย โกโก้ และแป้ง ส่วนสีแดงของเค้กจะมาจาก บีตรูต หรือ สีผสมอาหาร     

ส่วนประกอบ


  • เนย160 กรัม

  • น้ำตาลทราย270 กรัม

  • ไข่ไก่3 ฟอง

  • ครีมเปรี้ยว95 กรัม

  • น้ำบีทรูทสกัด3 ช้อนโต๊ะ

  • กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์230 กรัม

  • ผงโกโก้30 กรัม

  • เบกกิงโซดา¾ ช้อนชา

  • เกลือ½ ช้อนชา

  • บัตเตอร์มิลก์150 กรัม

  • ครีมชีสฟรอสติง

  • ครีมชีส360 กรัม

  • เนย180 กรัม

  • น้ำตาลไอซิง400 กรัม

  • กลิ่นวานิลลา1 ½ ช้อนชา

  • เกลือ½ ช้อนชา


10.Chocolate Fudge cake (เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์)

Credit : https://pin.it/lapi8mx

เค้กฟัดจ์ คือ เค้กช็อกโกแลตที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โดยตัวเค้กจะเป็นเค้กชั้นเดียวที่มีการสอดไส้ “ฟัดจ์” ดูภายนอกคล้ากัยกับบราวนี่ แต่จะมีช็อกโกแลตมากกว่า ความอร่อยของเค้กก้อนนี้ คือ มันเป็นเค้กหน้านิ่มที่ทุกคนสามารถทานได้ง่าย พร้อมฟินไปกับความนุ่มของตัวเค้ก 


ส่วนประกอบ


  • แป้งสาลีอเนกประสงค์100 กรัม

  • ผงฟู½ ช้อนชา

  • เบกกิ้งโซดา¼ ช้อนชา

  • เกลือ¼ ช้อนชา

  • ดาร์กช็อกโกแลต 85%100 กรัม

  • นมสด125 กรัม

  • น้ำตาลทรายแดง75 กรัม

  • น้ำมันรำข้าว¼ ถ้วย

  • ไข่ไก่1 ฟอง

  • กลิ่นวานิลลา½ ช้อนชา

  • มิลค์ช็อกโกแลต60 กรัม

  • เชอร์รี่สำหรับเสิร์ฟ

  • น้ำตาลไอซิ่งสำหรับเสิร์ฟ


นี่ก็เป็น 10 ประเภทของเค้กช็อกโกแลตที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน อ่านถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับการกินหรือการทำเมนูเค้กช็อกโกแลต

Credit 

https://pin.it/2vz1LDV

https://pin.it/lapi8mx

https://pin.it/3hRUIrK

https://shorturl.asia/5H4Ja

https://shorturl.asia/yo8Zr

https://shorturl.asia/0xYVi
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/905479
https://www.wongnai.com/food-tips/content-of-brownie?ref=ct
https://amprohealth.com/food-dessert/brownie/
https://kmmik.blogspot.com/2022/06/10.html
https://shorturl.asia/kEuTw



ความคิดเห็น